หากคุณเป็นแฟนของ American Major League Baseball (MLB) คุณอาจเคยได้ยินชื่อทีมเบสบอลมืออาชีพอย่าง New York Mets ซึ่งอยู่ใน National League East เจ้าของชื่อ Steven A. Cohen เป็นเจ้าของทีม 97.2 เปอร์เซ็นต์ และเขาเป็นเทรดเดอร์!

Steven A. Cohen ไม่เพียงเป็นเจ้าของทีมเบสบอลมืออาชีพ American Major League Baseball (MLB) New York Mets เท่านั้น แต่เขายังเป็นเทรดเดอร์ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย! ความจริงแล้ว ความยิ่งใหญ่ในการเทรดของเขาทำให้เขาเคยได้รับตำแหน่ง day-trader ชาวอเมริกันที่ทำกำไรได้มากที่สุด!

โคเฮนเกิดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 1956 ปัจจุบันอายุ 66 ปี เขาเติบโตขึ้นมาใน Great Neck ซึ่งตั้งอยู่ในนิวยอร์ก พ่อของเขาเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าในแมนฮัตตัน และแม่ของเขาเป็นครูสอนเปียโน เขาเป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 7 คน ตอนเรียนมัธยมเขาชอบเล่นโป๊กเกอร์เพราะเขาบอกว่าเกมสอนให้เขารู้จักเสี่ยง โคเฮนได้รับปริญญาเศรษฐศาสตร์จาก Wharton School ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียในปี 2521 ในระหว่างการศึกษาของเขา ครั้งหนึ่งเขาเคยเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้เงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐจากค่าเล่าเรียนของเขา

หลังจากสำเร็จการศึกษา เขาได้งานใน Wall Street ในตำแหน่งนักเทรดรุ่นเยาว์ในแผนกที่ทำเกี่ยวกับการเทรด option arbitrage ที่ Gruntal & Co วันแรกที่นั่นทำให้เขาทำกำไรได้ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ! อาชีพเทรดเดอร์ของเขาเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีรายได้ 100,000 เหรียญสหรัฐต่อวันซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา ในที่สุด เขาก็มีพอร์ตการซื้อขายมูลค่า 75 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีทีมเทรดเดอร์อีก 6 รายภายใต้การดูแลของเขาขณะอยู่ที่ Gruntal & Co.

ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 เขาตกเป็นเป้าของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพราะเขาถูกสงสัยว่ามีข้อมูลภายในเกี่ยวกับการควบรวมกิจการของ General Electric Co. และ RCA Corp เขาได้ซื้อหุ้นของ RCA และเมื่อ General Electric ประกาศการเทคโอเวอร์ RCA มูลค่าหุ้นละ 66.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ สิ่งนี้ทำให้เขาสามารถทำกำไรได้ถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐในการซื้อขาย! แต่ไม่เคยถูก ก.ล.ต. ลงโทษในการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน

ในปี 1992 โคเฮนเริ่มต้น SAC Capital Advisors ด้วยเงินของเขาเอง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอีก 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากเงินทุนภายนอก ชื่อบริษัท SAC Capital มาจากชื่อย่อของ Steven A. Cohen The New York Times เคยเขียนไว้ในปี 2003 ว่า SAC Capital เป็นหนึ่งในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงในด้านการซื้อขายบ่อยครั้งและรวดเร็ว (การซื้อขายระหว่างวัน) ในปี 2006 The Wall Street Journal เคยรายงานว่า แม้ว่าครั้งหนึ่ง Cohen จะมีสถิติเป็น day-trader ที่ไม่เคยถือครองสถานะการซื้อขายเป็นระยะเวลานาน แต่ ณ เวลานั้น สถานะการซื้อขายในระยะเวลาที่นานขึ้นได้เพิ่มขึ้นตาม จำนวนของผู้ถือหุ้น ในปี 2009 SAC Capital ของเขามีมูลค่าหุ้น 14 พันล้านเหรียญสหรัฐ

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2012 โคเฮนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลวงใน ซึ่งแมธิว มาร์โทมา อดีตผู้จัดการของเขาที่ SAC ถูกตัดสินว่ามีความผิดในปี 2014 ต่อมา ก.ล.ต. ได้ยื่นฟ้องโคเฮนโดยกล่าวหาว่าเขาล้มเหลวในการดูแลมาร์โทมาและไมเคิล สไตน์เบิร์ก

มาร์โทมา และ สไตน์เบิร์ก เป็นพนักงานอาวุโสและคนสนิทของ Cohen โคเฮนยุติคดีแพ่งกับ ก.ล.ต. ในเดือนมกราคม 2016 ด้วยข้อตกลงของ ก.ล.ต. ที่ห้ามโคเฮนจัดการเงินทุนภายนอกจนถึงปี 2018 SAC สารภาพว่าใช้ข้อมูลภายในซื้อขายในปี 2013 และจ่ายค่าปรับ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ SAC ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จัดการการลงทุนสำหรับบุคคลภายนอกอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม โคเฮนไม่เคยถูกตัดสินว่ามีความผิด

โคเฮนเปลี่ยน SAC Capital ให้เป็นสำนักงานของครอบครัวที่จัดการทรัพย์สินส่วนตัวของเขาและเปลี่ยนชื่อเป็น Point72 Asset Management เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาแห่งกองทุนเฮดจ์ฟันด์

ในบทความของ The Wall Street Journal ในปี 2006 Forbes จัดอันดับให้ Cohen เป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มีรายได้สูงสุดในปี 2014 ในปี 2016 นิตยสาร Forbes ประเมินความมั่งคั่งของ Cohen ไว้ที่ 13 พันล้านดอลลาร์ ทำให้เขาอยู่ในกลุ่ม 30 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐอเมริกา เขาซื้อหุ้นของทีมเบสบอล New York Mets และกลายเป็นเจ้าของทีมในปี 2020 โดยเขาถือหุ้น 97.2 เปอร์เซ็นต์

เริ่มต้นเส้นทางการเป็นเทรดเดอร์ในแบบของคุณ ด้วยการเปิดบัญชีซื้อขายกับ Tickmill.com