ทำไม Hedging แล้วยังพบกับ Stop-Out : เข้าใจกลไกของสเปรด

ทำไมทำ Hedging แล้วพอร์ตยังโดน Stop-Out
เข้าใจกลไกของ Spread
การ Hedging คือการเปิดคำสั่งซื้อ (BUY) และขาย (SELL) พร้อมกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเทรด โดยหวังว่ากำไรจากด้านหนึ่งจะชดเชยขาดทุนของอีกด้านหนึ่ง แต่ในความเป็นจริง วิธีนี้อาจล้มเหลวได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ Spread ขยายตัวและ Equity ต่ำจนถึงระดับ Stop-Out บนแพลตฟอร์ม MT4/MT5
บทความนี้จะอธิบายว่าทำไมการ Hedging ถึงอาจไม่ช่วยป้องกันความเสี่ยง และวิธีจัดการกับปัญหานี้
การทำงานของ Hedging คือการเปิดรายการเทรด Long / Short คู่กันเพื่อจำกัดการขาดทุน
เทรดเดอร์หลายคนเลือกใช้วิธีเปิดรายการเทรดขนาดเท่ากันกับรายการเทรดที่ติดลบก่อนหน้า เพื่อจำกัดไม่ให้การขาดทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพมากหากราคาของระบบนั้นเป็นราคาเดียว ที่ใช้ในการเปิดและปิด Long / Short
การทำงานของราคาใน MT4/MT5
ในระบบราคาของแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมทั่วไป เช่น MT4/MT5 เราจะพบว่า ราคาที่ใช้ในการเปิดปิดรายการเทรดจะมีการใช้ราคาสองรูปแบบ ไม่ใช่ราคาเดียวกันตามทฤษฎี
ASK Price: ราคาสูงกว่า ใช้สำหรับเปิดคำสั่ง BUY หรือปิดคำสั่ง SELL
BID Price: ราคาต่ำกว่า ใช้สำหรับปิดคำสั่ง BUY หรือเปิดคำสั่ง SELL
ความแตกต่างระหว่างราคา ASK และ BID ก็คือค่าสเปรดที่ผู้ให้บริการเก็บเป็นค่าธรรมเนียมในการเข้าถึงตลาดจากผู้ใช้บริการ
Spread แคบ: ในสภาวะตลาดปกติ
Spread กว้าง: ในตลาดที่ผันผวนหรือตลาดที่สภาพคล่องต่ำ
Stop-Out คืออะไร?
Stop-Out Level เกิดขึ้นเมื่อ:
Equity ต่ำกว่าร้อยละที่กำหนดไว้ของ Margin Used (เช่น 30%)
แพลตฟอร์มจะปิดคำสั่งซื้อขายโดยอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุน
ทำไมเมื่อทำ Hedging แล้วยังต้องพบกับ Stop-Out
เมื่อ Spread กว้างขึ้น หมายถึงราคา BID price จะลดลง และราคา ASK จะเพิ่มสูงขึ้น :
คำสั่งเทรด BUY (Long) ที่ต้องปิดที่ BID Price ซึ่งลดลง → ขาดทุนมากขึ้น
คำสั่งเทรด SELL (Short) ที่ต้องปิดที่ ASK Price ซึ่งเพิ่มขึ้น → ขาดทุนมากขึ้น
ดังนั้นการขยายตัวของ Spread ทำให้:
ขาดทุนทั้งสองคำสั่งเพิ่มขึ้น ซึ่งแตกต่างจากการซื้อขายด้วยราคาในระบบแบบราคาเดียวกันทั้ง Long / Short
ทำให้ Equity ลดลงเร็วขึ้น หากการลดลงจนถึงระดับ Stop-Out
เมื่อถึงจุดนี้ ระบบจะเริ่มปิดคำสั่งที่ขาดทุนมากที่สุดก่อน เพื่อดึงอัตราส่วน Equity/Margin ให้กลับมาอยู่ในระดับปลอดภัย
ตัวอย่างการล้มเหลวของ Hedging
ราคาปัจจุบัน ASK Price: 1.0005 / BID Price: 1.0000 : Spread: 5 pips
เปิดคำสั่งเทรดทั้งสองทิศทาง:
BUY (Long) ที่ ASK 1.0005
SELL (Short) ที่ BID 1.0000
เมื่อเสปรดกว้างขึ้น:
BID ลดลงเหลือ 0.9990 → คำสั่ง BUY ขาดทุนมากขึ้น
ASK เพิ่มขึ้นเป็น 1.0020 → คำสั่ง SELL ขาดทุนมากขึ้น
Spread ขยายตัว จาก 5 pips เป็น 30 pips ทำให้ขาดทุนรวมเพิ่มขึ้นเร็ว
ผลลัพธ์:
ทั้งคำสั่ง BUY และ SELL ขาดทุน
เมื่อ Equity ลดลงต่ำกว่า 30% ของ Margin ระบบจะปิดคำสั่งขาดทุนมากที่สุดจนกว่า Equity จะกลับมาอยู่ในระดับที่ปลอดภัย
วิธีหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจาก Hedging
ติดตาม Equity และ Margin:
รักษา Equity ให้อยู่เหนือระดับ Stop-Outระวังการขยายตัวของ Spread:
หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงตลาดผันผวนหรือตลาดสภาพคล่องต่ำลดการใช้ Leverage:
ลดความเสี่ยงจาก Stop-Outใช้ Stop-Loss อย่างมีประสิทธิภาพ:
ป้องกันคำสั่งซื้อขายจากการขาดทุนมากเกินไปเทรดในช่วงตลาดมีสภาพคล่องสูง:
หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงข่าวหรือช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายต่ำ
สรุป
การ Hedging อาจดูเหมือนกลยุทธ์ที่ปลอดภัย แต่จะล้มเหลวหาก Spread ขยายตัวใกล้ระดับ Stop-Out เพราะ:
ทั้งคำสั่ง BUY และ SELL จะขาดทุนพร้อมกัน
ขาดทุนสะสมจน Equity ลดลงอย่างรวดเร็ว
การเข้าใจกลไกราคาและ Spread ใน MT4/MT5 รวมถึงการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม สามารถช่วยปกป้องพอร์ตของคุณและป้องกันปัญหาจากการ Hedging ได้.
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เนื้อหาที่แสดงไว้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน มุมมอง ข้อมูล หรือความคิดเห็นที่แสดงในข้อความเป็นของผู้เขียน แต่เพียงผู้เดียวไม่ใช่ของนายจ้าง องค์กร คณะกรรมการ หรือกลุ่ม หรือบุคคล หรือ บริษัท ของผู้เขียน
ประสิทธิภาพในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต
คำเตือนความเสี่ยงสูง: CFD เป็นเครื่องมือที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินอย่างรวดเร็วเนื่องจากเลเวอเรจ 75% และ 75% ของบัญชีนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อซื้อขาย CFD กับ Tickmill UK Ltd และ Tickmill Europe Ltd ตามลำดับ คุณควรพิจารณาว่าคุณเข้าใจวิธีการทำงานของ CFD หรือไม่ และคุณสามารถรับความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินของคุณได้หรือไม่
ฟิวเจอร์สและออปชัน: การซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชันโดยใช้มาร์จินมีความเสี่ยงสูงและอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียเกินกว่าเงินลงทุนเริ่มต้นของคุณ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกคน โปรดมั่นใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและดูแลการจัดการความเสี่ยงของคุณอย่างเหมาะสม