ทำความรู้จักกับ Black Swan และวิธีบริหารจัดการเพื่อป้องกันพอร์ตการลงทุนของคุณ

คุณอาจเชื่อมั่นกับระบบเทรดที่มีอัตราชนะสูง และยืนยันได้จากสถิติที่เก็บเป็นเวลาหลายปีจากหลายร้อยรายการเทรด
แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่าการลงทุนของคุณจะปลอดภัย

จนกว่าคุณจะเข้าใจความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ยาก และหาทางปรับกลยุทธ์ของคุณให้เข้ากับพฤติกรรมราคาที่อาจสร้างความสูญเสียอย่างร้ายแรงกับพอร์ตการลงทุนของคุณ
ในชื่อที่เรียกกันว่า Black Swan

หงส์ดำ Black Swan

โดยทั่วไปเรามักพบกับหงส์ที่มีสีขาวเป็นส่วนมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าโลกนี้จะมีแต่หงส์สีขาว
เช่นเดียวกัน ภาวะของราคาที่มีความผันผวน เมื่อลงมาถึงแนวรับ/ต้านสำคัญ ราคามักจะกลับตัว
แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าการกลับตัวไปสู่ระดับที่เคยเกิด จะเกิดขึ้นได้ทุกครั้ง

สิ่งที่พบเห็นได้ไม่บ่อย เกิดขึ้นได้ยาก ก็คือ Black Swan ในโลกของการลงทุน

ในบทความนี้จะทำความเข้าใจบัญชี copy เทรดตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และพบกับพฤติกรรมราคาที่อยู่นอกเหนือการประเมินของเทรดเดอร์จนพบกับความสูญเสียระดับสูง
เมื่อเราทำความเข้าใจความผิดพลาดของเทรดเดอร์ท่านนี้ เราสามารถใช้เป็นแนวทางในการพัฒนากลยุทธ์การเทรดของเราให้ยกระดับไปอีกขั้น

ภาพประกอบ : พอร์ตการลงทุน copy trade ขนาดใหญ่ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก มีผลการเทรดที่สร้างกำไรให้ผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่องหลายปีกับรายการเทรดหลายร้อยรายการ ก็สามารถพบกับความสูญเสียได้ เมื่อพฤติกรรมราคาเปลี่ยนแปลงไป

คุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีระบบเทรด

เมื่อคุณอยู่ในตลาดนานพอที่จะเชื่อมั่นในกลยุทธ์การเทรดที่กำลังใช้ หรือ บัญชี Master copy trade ที่คุณติดตามซึ่งสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องให้คุณอย่างสม่ำเสมอมานานหลายปี
มีอัตราส่วนการชนะต่อแพ้ที่สูงกว่า 70% จากการเทรดเป็นพันรายการ คุณเริ่มเชื่อมั่นว่าคุณพบหนทางแห่งความร่ำรวยแล้ว เพียงแค่คุณต้องทำตามระบบ

คุณไม่ใช่มือใหม่ ที่เทรดไปตามอารมณ์ หรือคำแนะนำจากอินเตอร์เนต
คุณมีระบบเทรดที่พิจารณา แนวรับแนวต้าน และ Time frame ใหญ่ลงมาเล็ก สไตล์การเทรดของคุณคือการเทรดโดยสร้างกำไรจากการกลับตัวของเทรนด์ เมื่อราคามาสัมผัสแนวรับ - ต้าน

วันนี้ก็เป็นอีกวัน ที่คุณก็ทำเหมือนเดิมกับที่เคยทำทุกอย่าง

  • คุณเริ่มต้นเข้าเทรดโดยความเชื่อมั่นในแนวรับของ Timeframe ขนาดใหญ่ที่บริเวณนี้เป็นแนวรับที่แข็งมากจากอดีตที่ผ่านมา คุณจึงรอที่จะเทรดแบบ Counter trend (การเทรดสวนทางกับแนวโน้มใหญ่) ในบริเวณแนวรับ-ต้านที่สำคัญ
  • คุณรอจังหวะราคาที่เริ่มมีการกลับตัวใน Timeframe ที่เล็กกว่า และเริ่มต้นรายการเทรดแรกของคุณตามเทรนด์ในระดับ Time frame H4 / D1 ซึ่งเป็น Time frame ที่เหล่าเดย์เทรดใช้กันเป็นปกติ และคาดหวังกำไรจากการกลับตัว
  • คุณมีแผนรองรับในกรณีที่ ราคายังคงไปในทิศทางเดิม สวนกับการเทรดของคุณ โดยคุณก็แค่เพิ่มรายการเทรดตามรายการแรกเข้าไปในแบบกริด เพื่อที่จะสร้างกำไรมากขึ้น เมื่อราคาเริ่มกลับตัว ทุกครั้งวิธีนี้ใช้ได้ผลมากว่า 5 ปี ครั้งนี้ก็คงเหมือนเดิม ดังนั้นคุณจึงเชื่อว่าระบบเทรดนี้ของคุณไม่จำเป็นต้องกำหนด Stop loss เพราะว่าการวิเคราะห์แนวรับ แนวต้าน กับขนาดการเทรดที่คุณใช้สามารถทำให้คุณอยู่รอดและสร้างผลกำไรได้กว่า 5 ปี

ภาพประกอบ วิธีการประเมิน Time frame ใหญ่ พบว่าแนวรับบริเวณราคาปัจจุบันคือแนวรับที่มีนัยยะสำคัญ มีโอกาสที่ราคาจะลงมาและกลับตัวขึ้น เทรดเดอร์ที่มีสไตล์การเทรดโดยเชื่อว่าราคาจะไม่สามารถเบรคแนวรับสำคัญลงมาได้ลึก จะทำการ Buy บริเวณนี้

ภาพประกอบ การประเมินจุดเข้าใน Time frame ขนาดเล็ก เพื่อเทรดในรูปแบบ Counter trend ที่แนวรับ / ต้าน โดยเมื่อเทรดเดอร์ตั้งใจจะ Buy ที่แนวรับ และพบว่ามีรูปแบบแสดงความเป็นไปได้ที่จะเบรคแนวต้านใน Time frame เล็ก จะทำการ Buy

ราคาไม่เป็นไปตามคาด

  • ราคายังคงสวนทางลงกับการซื้อของคุณไปเรื่อยๆหลายวัน
  • คุณเริ่มมีรายการเทรดซื้อ ที่สวนกับแนวโน้มขาลงจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และแต่ละรายการเพิ่มขนาดการติดลบให้บัญชีซื้อขายของคุณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
  • ในบางวันมีข่าวที่อธิบายถึงเหตุผลให้คุณกังวลเพิ่มเติม ว่าทำไมราคาถึงยังคงลงอย่างต่อเนื่อง
  • ในบางวันมีข่าวที่ทำให้คุณมีกำลังใจ ว่าการรอของคุณอาจสิ้นสุดลงเร็วๆนี้ ราคาน่าจะกลับตัวตามการเทรดของคุณ จากข่าวรัฐบาลกลางกำลังมีแผนควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน ที่กำลังผิดปกติอย่างรุนแรง
  • ราคากลับตัวมาในทิศทางที่คุณเชื่อมั่นในบางวัน แต่ยังไม่สามารถไปต่อจนทำให้บัญชีซื้อขายของคุณกลับมาเป็นกำไรได้ คุณจึงต้องรอต่อไป

ภาพประกอบ ราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง จากจุดที่เริ่ม Buy, เทรดเดอร์ที่ใช้วิธีซื้อเฉลี่ย / กริด จะซื้อเพิ่มเมื่อรายการเทรดแรกผิดทาง เพื่อให้ได้จำนวนรายการเทรดมากขึ้น และมีค่าเฉลี่ยต้นทุนซื้อลดลง (ผลกำไรมากขึ้นหากราคากลับตัวขึ้น)

เริ่มต้นหาวิธีจัดการแบบอื่นๆ

Martingale

  • คุณเริ่มใช้ Martingale - คุณเพิ่มรายการเทรดในทิศทางเดิมเข้าไปอีกเพื่อคาดหวังให้จุดคืนทุนของรายการรวมทั้งหมดใกล้ขึ้น เพราะคุณไม่อยากที่จะทรมาณกับความกังวลในระยะเวลานานๆ
  • ราคายังคงสวนทางกับการเทรดของคุณไปเรื่อยๆ การเพิ่มขนาดการเทรดในขนาด Lot ที่มากขึ้นในแต่ละจุด ทำให้อัตราเร่งของการติดลบของคุณเพิ่มขึ้นด้วยความชันที่มากขึ้นกว่าเดิม (Exponential)

Zone recovery / Square position / Hedging

  • มีบทความหรือคลิปในอินเตอร์เนตที่เล่าถึงวิธีแก้ไขพอร์ตการลงทุนด้วยวิธี Hedging เปิดรายการเทรดในขนาดเท่ากันกับที่คุณเปิดอยู่ในทิศตรงกันข้าม (หากคุณ Buy EURUSD 10 lot, คุณต้อง Sell EURUSD 10 lot)
  • เพื่อ Lock การติดลบไม่ให้เพิ่มต่อ จากนั้นค่อยหาวิธีจัดการปลดการติดลบทีละรายการ คุณลองทำสิ่งเหล่านี้ในวันที่คุณเริ่มหมดหวังว่าราคาคงไม่กลับไปในทิศทางที่คุณเทรดง่ายๆ

ภาพประกอบ กลยุทธ์ของเทรดเดอร์บางกลุ่ม คือการซื้อเพิ่มเมื่อการซื้อครั้งแรกผิดทาง อาจแบ่งตามระยะกริด หรือระยะเวลา เพราะเชื่อมั่นว่าราคาจะมีการกลับตัวในเร็วๆนี้ตามพฤติกรรมราคาที่เคยผ่านๆมา

ภาพประกอบ ความพยายามในการใช้ Hedging เมื่อมีการติดลบจาก Buy ในปริมาณสูง เทรดเดอร์อาจพยายาม Short ด้วยขนาด lot สูง เพื่อชดเชยการติดลบจาก Buy

Stop Out

เมื่อราคายังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องไปในรูปแบบที่ทำให้การติดลบของคุณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ณ จุดที่ Equity ของคุณต่ำกว่า 30% ของ Margin used แพลตฟอร์มการเทรดจะเริ่มปิดรายการเทรดของคุณจากรายการที่มูลค่าการติดลบสูงไล่ลงไปเรื่อยๆ ในจุดนี้คุณรู้สึกโกรธ
และเสียดายที่ไม่ได้ทำสิ่งต่างๆมากมาย

แม้แต่การใช้ Square position / Hedging เพื่อล็อคการสูญเสีย ก็ช่วยไม่ได้ เมื่อเทรดเดอร์ใช้ขนาดการเทรดปริมาณสูง
และพบกับภาวะที่สเปรดกว้างมากขึ้นจากภาวะตลาด (สภาพคล่องต่ำ / ความผันผวนสูงจากข่าว)
สเปรดที่กว้างมากขึ้น ทำให้ทุกรายการเทรดไม่ว่าจะ Long / Short ในบัญชีได้รับผลกระทบติดลบเพิ่มสูงขึ้น และนำไปสู่การลด Equity อย่างรวดเร็วจน Stop out

มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดพฤติกรรมราคาที่ไม่ธรรมดา

รูปแบบเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เราจะพบกันแทบจะตลอดเวลาในวงการเทรด ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์จากที่ใดในโลก
คุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่พลาดและขาดทุนกับตลาดจากรูปแบบดังกล่าว

เพียงแต่เมื่อคุณตระหนักได้ถึงพฤติกรรมของราคาที่สามารถเกิดภาวะที่แปลกไปจากที่คุณเชื่อ
เราจึงอยากขอแนะนำให้คุณระวังในบางจุดเพื่อให้บัญชีการลงทุนของคุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

เริ่มต้นอย่างง่ายดาย ด้วยการใช้ Stop loss ในแผน

หากแผนการเทรดของคุณ สามารถปรับใช้ stop loss ในแผนการเทรดได้ คุณอาจใช้เครื่องมือง่ายๆนี้ประยุกต์เข้าไปกับการตัดสินใจยอมรับความเสียหายระดับต่ำ
ก่อนที่จะกลายเป็นความเสียหายในระดับสูงกับพอร์ตการลงทุนของคุณ

มันไม่ใช่เรื่องผิด ที่จะใช้กลยุทธ์ซื้อเฉลี่ย , Grid , Martingale, Hedsging หรือ zone recovery

แนวทางเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ หากคุณสามารถปรับใช้ตามสถาณการณ์และการจัดการที่เหมาะสม แม้คุณจะขอบัญชีที่มีเลเวอเรจสูง แต่คุณอาจออกรายการเทรดในแบบมาทิงเกลหรือกริดด้วยการคำนวณไว้ก่อน ว่าชุดของรายการทั้งหมดจะไม่ใช้เลเวอเรจเต็มตามที่บัญชีให้มา ไปจนถึงการตั้ง Stop loss รวมของชุดกริด ตราบใดที่คุณระลึกว่า พฤติกรรมราคาสามารถเกิดภาวะ Black swan ที่ราคาวิ่งอย่างต่อเนื่องตรงข้ามกับคุณได้ และเมื่อมันเกิดขึ้น คุณจะรับมือมันได้อย่างไร กำหนดแผนของคุณเพิ่มเติมสำหรับกรณีดังกล่าวไว้ แม้ Black swan จะสร้างความสูญเสียให้กับคุณระดับหนึ่ง แต่เมื่อคุณประเมินแผนรองรับไว้ พอร์ตการลงทุนของคุณก็จะยังคงอยู่รอดได้ และกลับมาสร้างกำไรชดเชยกับความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ในอนาคต

กลยุทธ์และเทคนิคต่างๆล้วนมีจุดแข็งและจุดอ่อน เลือกใช้ให้เหมาะสม
จุดสำคัญของความสูญเสียระดับสูงของเทรดเดอร์มักเกิดจากการใช้เลเวอเรจที่ไม่เหมาะสมกับกลยุทธ์
หากคุณเป็นนักลงทุนระยะยาว คุณสามารถใช้กริดเพื่อซื้อเฉลี่ยหุ้นที่พื้นฐานดี โดยซื้อเพื่อดึงต้นทุนให้ต่ำลง
เพื่อหวังผลในระยะยาวได้ หากคุณใช้เลเวอเรจต่ำ หรือไม่ใช้เลเวอเรจ

แต่เมื่อคุณใช้เลเวอเรจสูง และชุดการเทรดของคุณติดลบด้วยอัตราเร่งที่มากขึ้น หากคุณไม่เติมเงินเพิ่มเติม
บัญชีของคุณก็จะ Stop out ได้อย่างง่ายดาย ตามขนาดการเทรดบนเลเวอเรจสูงที่คุณเลือกใช้

ความสูญเสียมักเกิดเมื่อคุณใช้เลเวอเรจสูงด้วยกลยุทธ์ที่เร่งผลตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้น
แต่อย่าลืมว่า วิธีนี้นั้นทำให้คุณพบกับความเสี่ยงสูงเมื่อพฤติกรรมราคามีรูปแบบ Black swan ด้วยเช่นกัน

คุณอาจสนใจข้อมูลเหล่านี้

Slippage / Stop loss

https://www.tickmill.com/th/blog/slippage
https://www.tickmill.com/th/blog/slippage-ordertype
https://www.tickmill.com/th/blog/stop-loss

หมวดหมู่บทความ

https://www.tickmill.com/th/blog/tickmill-thailand...